การบริหารอสังหาฯสไตล์” สงกรานต์ อิสสระ” “คิดนอกกรอบ ทำในกรอบ” มองในทุกด้าน

 

การบริหารอสังหาฯสไตล์” สงกรานต์ อิสสระ” “คิดนอกกรอบ ทำในกรอบ” มองในทุกด้าน 

      ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นับเป็นอีกตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์  เช่นเดียวกับ กลุ่มชาญอิสสระ ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างบริษัทโดดเด่นด้านความคิด การปรับตัว โดยมีแม่ทัพคนสำคัญอย่าง “สงกรานต์ อิสสระ” ตั้งแต่การบุกเบิก การใช้นวัตกรรม ความทันสมัย ออกมาตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย และเครื่องมือทางการเงิน
        สงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน) บอกว่า เทรนด์ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทิศทางการพัฒนาธุรกิจไม่เหมือนเดิม ดีเวลลอปเปอร์ต้องเปลี่ยนแนวการทำธุรกิจ ไม่ไช่แบบเดิมๆ พัฒนาโครงการมาขาย ทั้งที่อยู่อาศัย  และรายได้ระยะยาว เช่น โรงแรม แล้วก็มองหาที่ใหม่มาพัฒนาแล้วขายต่อไปเรื่อยๆ แนวทางแบบนี้ทำไม่ได้แล้วในยุคที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นมาก และหายากขึ้น ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคเปลี่ยน  ต้องพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย “ใครปรับได้ ก็อยู่ได้”
 
        หากนับตั้งแต่โครงการชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 จนมาถึงวันนี้ ชาญอิสสระ พัฒนาโครงการมามากมาย ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด วิลล่า โรงแรมระดับลักชัวรี ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด  อาทิ โครงการอิสสระ เรสซิเดนท์ พระราม 9 ,บ้านอิสสระ คอนเลคชั่น สาทร,บ้านอิสสระ บางนา, ศรีพันวา ภูเก็ต,บาบาบีช  เรสซิเดนท์ พังงา และหัวหิน   โดยเฉพาะ “ศรีพันวา” เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการต่อยอดขยายธุรกิจของกลุ่มชาญอิสสระปัจจุบัน เช่น ศรีพันวา รับบริหารโรงแรมที่ไฮหนาน มณฑลยูนนานประเทศจีน ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มจุนฟาเรียลเอสเตท และในอีก 5 ปีข้างหน้า จะขยายความร่วมมือรับบริหารโรงแรมในจีน อย่างน้อย 2-3 แห่งเน้นเมืองท่องเที่ยว เช่น ลีเจียง คุนหมิง
อย่างกลุ่มชาญอิสสระที่ผ่านมาก็มีการปรับตัว  ทั้งปรับระบบการตลาด มีทีมขายของเราและเอาท์ซอร์สมาจากเอเจนท์ด้วย ใช้การตลาดและการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างความได้เปรียบและแตกต่างจากคู่แข่ง ผ่านพัฒนาโครงการในลักษณะผสมผสานหรือมิกซ์ยูส ทั้งหมดเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องเข้ากับภาวะของ
ธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะต้องมีการกระจาย
การดำเนินธุรกิจให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การที่บริษัทหันมาเน้นทำธุรกิจทางด้านการพัฒนาโรงแรม การรับบริหารโรงแรม ภายใต้เชน “ศรีพันวา” รวมทั้ง บาบาบีช คลับ  รวมทั้งการลงทุนธุรกิจโรงเรียนการโรงแรม ในภูเก็ต คาดว่าจะมีการร่วมมือกับพันธมิตรประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นโครงการในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
           สงกรานต์ เล่าว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมภายใน 5 ปี (ปี 2561-2565) เพิ่มเป็น 35% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ 26% โดยบริษัทจะต้องมีการเพิ่มโรงแรมในพอร์ตบริหารอีก 4-5 แห่ง ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท จุนฟา เรียลเอสเตท จำกัด พันธมิตรจากประเทศจีน เพื่อรับบริหารโรงแรมที่ไหหลำ ในจีน โดยปัจจุบันโรงแรมดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี 2562 ซึ่จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในช่วงปี 2562-2563
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความสำเร็จของชาญอิสสระ มาจากปรัชญาการดำเนินธุรกิจ  “คิดนอกกรอบ ทำในกรอบ”  การคิดสร้างสรรค์ การใช้ปัญญาพิจารณา และความถูกต้อง   เราจะมองไปในทุกๆด้าน สิ่งที่เกิดอยู่ในปัจจุบัน มองไปข้างหลัง ประสบการณ์และการเรียนรู้ และมองไปข้างหน้า ”สงกรานต์กล่าวทิ้งท้าย

บทความและเรียบเรียงโดย :  กัญสุชญา สุวรรณคร (บรรณาธิการข่าว PropDNA)