รหัสความสำเร็จ“โกลเด้นแลนด์” ส่วนผสมที่ลงตัว“ทำเล-ราคา- ฟังก์ชั่น”  

โกลเด้นแลนด์ นับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีพัฒนาการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยส่วนผสมจุดขายที่ลงตัว “ทำเล ราคา ฟังกัชั่นบ้านตรงใจลูกค้า และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่  นำไปสู่การเป็นผู้นำด้านตลาดทาวน์โฮม แง่ยอดขาย  และเป็นที่สองแง่รายได้ รองจากพฤกษา พร้อมก้าวต่อไป รุกตลาดบ้านเดี่ยว วางเป้า 3-5 ปีข้างหน้ามียอดขาย 1 หมื่นล้านบาท และพิชิตผู้นำตลาดบ้านแฝด

ภวรัญชน์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โกลเด้นแลนด์” บอกว่า แนวทางการทำธุรกิจ ยังคงเน้นผ่าน 4 ข้อหลัก ที่ถือเป็น Key Success ประกอบด้วย1. Location

2.ฟังก์ชั่น ครบ ,  อย่างทาวน์โฮมเราโดดเด่นในเรื่องฟังก์ชั่น ข้างล่างก็จะมีห้องนอนล่าง ข้างบนก็จะมีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ มี walk-in closet ซึ่งเป็นทาวน์โฮม ที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนบ้าน ทำให้ปัจจุบันก้าวเป็นผู้นำด้านตลาดทาวน์เฮ้าส์ ในแง่ยอดขาย  และเป็นที่สองแง่รายได้ รองจากพฤกษา 3. Facilities และ4. ราคาที่ดี (Price ) สินค้าบ้านเดี่ยวแบรนด์ แกรนดิโอ เป็นโครงการบ้านหรูราคา 7-10 ล้านบาท ,สินค้าบ้านเดี่ยว เดอะแกรนด์ ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ,สินค้าทาวน์โฮม แบรนด์ โกลเด้น ทาวน์ ราคา 2-3 ล้านบาท สินค้าบ้านแฝด แบรนด์ โกลเด้น นีโอ ราคา 5-6 ล้านบาท

         “วิธีทำสินค้าก็เหมือนการทำอาหาร ทำอย่างไรให้อร่อย ถูกใจคนชิม เพราะฉะนั้นต้องมีส่วนผสมหลายอย่างมาปรุง เพื่อให้ได้สิ่งที่ถูกใจที่สุด ในอดีตทาวเฮ้าสจะชูเรื่องราคา แต่เราได้เติมดีไซน์ทาวน์โฮมให้อารมณ์เหมือนบ้านเดี่ยว  เช่น มีสโมสร สระว่ายน้ำ แต่เราก็จะมี key driver เป็นตัวเรา ก็พยายามสร้างโครงการให้ดึงดูดลูกค้า โครงการใหม่ๆ แบบเราจะปรับไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ

อีกจุดเด่นของบ้านโกลเด้นแลนด์ คือ ราคาดี ที่เปรียบเทียบแล้วคุ้มค่ากว่า ทำให้ชนะใจผู้บริโภคได้  ซึ่งหากเปรียบเทียบกับโครงการคู่แข่งในทำเลเดียวกัน ที่ให้แบบจัดเต็มเหมือนบ้านโกลเด้นแลนด์  เชื่อว่าต้องขายแพงกว่า10-20%  เพราะยังสู้ตุ้นทุนเราไม่ได้

 ลุยเปิด3โครงการขนาดใหญ่มูลค่า1.7 หมื่นล้าน

 ในปีที่ผ่านมา โกลเด้นแลนด์ ได้มีการสร้างที่อยู่อาศัย เรียกว่า”อาณาจักร” แต่ละอณาจักร จะมีความหลากหลายของโปรดักส์ในโครงการย่อย 4-5 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม  บ้านแฝด เพื่อเจาะรองรับตลาดทุกกลุ่มเป้าหมาย  กับก้าวแรกของความสำเร็จ การเปิดอาณาจักรแรก” โกลเด้น เลค โคโม”   ที่เป็นอาณาจักรบ้านสไตล์อิตาลี พัฒนาโครงการบ้าน 5 โครงการ บนเนื้อที่ 180 ไร่ จำนวน 1,038 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ที่สามารถปิดโครงการในวันเปิดจองครั้งแรกได้ถึง 2 โครงการ และปิดการขายพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทั้งหมดได้ภายใน 2 ปี

 หลังจากนั้นในปีที่ผ่านมา ได้มาเปิดอาณาจักรที่ 2 ในชื่อ บริติช อเวนิว ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ พัฒนาโครงการที่มีความหลากหลาย 5 โครงการในแบบบ้านสไตล์อังกฤษ เนื้อที่รวม 120 ไร่ จำนวน 950 ยูนิต มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี มีแผนเปิดอีก 3 โครงการในปีนี้  รวมมูลค่าประมาณ 16,000-17,000 ล้านบาท ที่จะเป็นโครงการเรือธงด้าน” รายได้ใหม่” โดยคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญ อาทิ เป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง เป็นแหล่งชุมชน เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก พัฒนาโครงการที่มีความหลากหลาย ตอบสนองลูกค้าได้ทุกกลุ่ม เพราะมีโปรดักส์รองรับลูกค้าได้ครบความต้องการ

ล่าสุด เปิดอาณาจักรที่ 3  “โกลเด้น เอ็มไพร์ บางแค” เพื่อตอบสนองของผู้ที่ต้องการบ้านในเมือง  ซึ่งภายในโครงการประกอบไปด้วย 4 โครงการ บนพื้นที่กว่า 170 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,100 ล้านบาท  โดยจะเปิดตัวปีนี้ 3 โครงการ บนพื้นที่รวม 135 ไร่ จำนวน 846 ยูนิต มูลค่า 4,915 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ โกลเด้น นีโอ บนพื้นที่ 30 ไร่ จำนวน 166 ยูนิต มูลค่า 1,080 ล้านบาท เปิดจองในเดือน มิ.ย. นี้ ราคาขายเริ่ม 5-6 ล้านบาท โครงการ แกรนดิโอ บนพื้นที่ 71 ไร่ จำนวน 284 ยูนิต มูลค่า 2,670 ล้านบาท เปิดจองในเดือน ก.ค.นี้ ราคาขายเริ่ม 7-10 ล้านบาท และ โครงการ โกลเด้น ทาวน์ บนพื้นที่ 34 ไร่ จำนวน 396 ยูนิต มูลค่า 1,165 ล้านบาท เปิดจอง ก.ค. นี้ ราคาขายเริ่ม 2-3 ล้านบาท

รุกตลาดบ้านแฝดคู่แข่งน้อย

ภวรัญชน์  กล่าวว่า ในปีหน้ารุกตลาดบ้านแฝดเพิ่มขึ้น เนื่องจากเห็นช่องว่างทางการตลาด  และมีการแข่งขันน้อย หลังจากปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มทาวน์โฮม ปัจจุบัน บ้านแฝดมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15%ของมูลค่าขายทั้งหมด ในแต่ละอาณาจักรจะมีใส่โปรดักส์บ้านแฝดเข้าไป เนื้อที่ไม่มาก 30-40 ไร่ จำนวน 150-200 ยูนิต เป็นกลุ่มรายได้ประมาณ 40,000-70,000 บาท ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านแฝดอดีตจะมีความสามารถซื้อบ้านเดี่ยวไซต์เล็ก

  สำหรับ 2561  บริษัทตั้งเป้ารับรู้รายได้จากโครงการแนวราบอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านแฝด 2,500 ล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา บ้านเดี่ยว 4,000 ล้านบาท เติบโต 10%  และ ทาวน์เฮาส์ 9,500 ล้านบาท เติบโต 30%

 จากโรดแมปธุรกิจ ปี โกลเด้นแลนด์ ขึ้นเป็น Top 5 ในปี 2563 ผ่านบันไดขั้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นที่ คือ เพิ่มมูลค่า  ซึ่งเหลือเพียงอีก 2ขั้น จะถึงเป้าหมาย ที่ต้องติดตาม

บทความและเรียบเรียงโดย :  กัญสุชญา สุวรรณคร (บรรณาธิการข่าว PropDNA)