ตลาดคอนโดเดือดผู้ชนะเกมQ3 ต้องเผ็ด ทั้งโปรดักส์-ทำเล

ตลาดคอนโดเดือดผู้ชนะเกมQ3 ต้องเผ็ด ทั้งโปรดักส์-ทำเล

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 3  เรียกได้ว่าเป็นไตรมาสที่มี การแข่งขันดุเดือดที่สุดในปีนี้  บรรดาบริษัทรายใหญ่ ต่างเร่งเปิดโครงการใหม่กันแทบทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างยอดขาย โดยเฉพาะโครงการคอนโดมีเนียมในเดือนก.ย. นับเป็นเดือนที่พีคสุด มูลค่าการเปิดโครงการใหม่พุ่งไปถึง 50,000 ล้านบาท  ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวน้อย กำลังซื้อยังไม่กลับมามากนัก แน่นอนว่า ย่อมมีโครงการเปิดมาแล้ว อาจไม่ประสบผลสำเร็จในการขายทั้งหมด

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม  บมจ. พฤกษาเรียลเอสเตท ระบุว่า ไตรมาส 3 เป็นไตรมาสที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง เพราะผู้ประกอบการต่างเร่งเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะเดือนกันยายน  มูลค่ารวมโครงการเปิดใหม่สูงถึง 50,000 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 2 เท่า เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยผู้ประกอบการแต่ละราย มีการเปิดโครงการใหม่เฉลี่ย 3-4 โครงการ

“เดือนก.ย. อาจถือเป็นโค้งสุดท้ายของปีนี้ ก็ว่าได้  เพราะไม่รู้ว่าอารมณ์ของผู้ซื้อจะเป็นอย่างไร หลังเดือนต.ค. ส่งผลผู้ประกอบการเร่งเปิดโครงการก่อนเดือนต.ค. ทำให้คาดว่าเมื่อจบไตรมาส 3 จะมีการเปิดตัวร่วม 1.1 แสนล้านบาท จากทั้งปีนี้ คาดมีคอนโดมิเนียมเปิดรวม 3.9-4 แสนล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว เปิดตัว 3.6 แสนล้านบาท เติบโต 5-10%

อย่างไรตาม การเติบโตเป็นแบบกระจุกตัวอยู่ ในผู้ประกอบการรายใหญ่ และกระจุกอยู่ในผู้ ประกอบการบางราย และบางโครงการที่เป็นแฟลกชิปเท่านั้น  ทำเลต้องดี โปรดักส์ดี เพราะกำลังซื้อยังไม่ได้ดีมากนัก จากปัญหาหนี้ครัวเรือน

ผู้ชนะไตรมาส 3 ต้อง”เผ็ด”สุดๆ

ประเสริฐ ย้ำว่า  โครงการเปิดใหม่ในไตรมาส 3 จะประสบความสำเร็จการขายได้  ต้อง”เผ็ด”สุดๆ  ไม่ใช่แค่ราคาอย่างเดียว โปรดักส์ก็ต้องสุดๆ มีความแตกต่างโดดเด่น (Market Model Initiative)  ต้องเป็นผู้เล่นในตลาดที่แตกต่าง ที่เป็นช่องว่างสุดๆ  และต้องตั้งอยู่ในทำเลที่ดีสุ ดๆ แล้ว ยังอยู่ในพื้นที่ ที่เป็นช่องว่างตลาดสุดๆด้วย ถึงจะประสบความสำเร็จ และเป็นผู้ชนะในเกมนี้

“โครงการที่ขายดี จะกระจุกตัวอยู่ไม่กี่โครงการ ไม่ได้ทุกโครงการที่เปิดมาขายดี หมด  จะเห็นว่าทุกโครงการขายดี จะมีจุดขายเผ็ดสุดของโครงการ  โปรดักส์ คุณภาพสินค้า เมื่อลูกค้าเข้ามาเห็นแล้วต้อง ว้าวเลย สะท้อนจากยอดการเข้าชมในโซเซียลเน็ตเวิร์ค  การส่งมอบสินค้าให้เกินความคาดหวัง มีแวลูที่แตกต่าง หัวใจสำคัญของการทำคอนโดมิเนียม ขายดีได้แค่ดีใจ แต่ต้องโอนให้หมด

ในไตรมาส 3 พฤกษา เตรียมเปิดเฟสใหม่ แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา -ห้วยขวาง อีก 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท และเดอะรีเชิร์ฟ ประดิพันธ์ สะพานควาย 298 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท เปิดขายไปแล้วเมื่อวันที่ 16-17 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมดึงพันธมิตร เช่น สตาร์บัค สร้างมูลค่าเพิ่ม และอนาคตจะรุกพัฒนาอสังหาฯเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว โดยเป้าบริษัทปีนี้ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท

เช่นเดียวกับมุมมองของ พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  บอกว่า  ไตรมาส 3 โดยเฉพาะเดือนก.ย. ผู้ประกอบการเกือบทุกค่ายมี การเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ชนิดที่ว่าเกือบทุกวัน  สำหรับบริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4700 ล้านบาท ส่งผลให้ตลาดมีการแข่งขันอย่างเผ็ดร้อน ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวน้อย กำลังซื้อยังไม่กลับมามากนัก

ดังนั้น ผู้ที่ชนะเกมการแข่งขันในไตรมาสนี้ได้  Key Success   คือ การหาทำเลที่มีกำลังซื้อ การทำโปรดักส์ ต้องแตกต่าง ทั้งรูปแบบ ฟังก์ชั่น  ดีไซน์ของห้อง  มีแวลู  ที่สำคัญต้องอ่านใจลูกค้าออก ถ้าโปรดักส์ใช่ ก็จะเป็นเดอะวินเนอร์เกมส์นี้ ได้

“หากสินค้าไม่แตกต่าง และไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค เชื่อว่า จะมีหลายโครงการเปิดใหม่ อาจขายได้ไม่ถึง 50% ส่วน ออริจิ้นฯ ไม่ได้กังวล เนื่องจาก มีการวาง Business Model แต่ละแบรนด์มีคาแรกเตอร์ชัดเจน มีความหรูหา ราคาจับต้องได้  และมีความมั่นใจว่าบริษัทมี ยอดขายในไตรมาส 3 ประมาณ 5000 ล้านบาท และเป็นเดอะวินเนอร์ในเกมนี้” พีระพงศ์กล่าวอย่างมั่นใจ

บทความและเรียบเรียงโดย :  กัญสุชญา สุวรรณคร (บรรณาธิการข่าว PropDNA)