“ORI” กำไร 9 เดือนเฉียด 1,000 ล้าน โตเป็นประวัติการณ์ทะลุ 202% มาพร้อมอัตราการทำกำไรขั้นต้นสูงถึง 46.6% และ กำไรสุทธิ 24.1%

ORI” กำไร 9 เดือนเฉียด 1,000 ล้าน โตเป็นประวัติการณ์ทะลุ 202%

มาพร้อมอัตราการทำกำไรขั้นต้นสูงถึง 46.6% และ กำไรสุทธิ 24.1%

 “ออริจิ้น” โชว์ผลประกอบการสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2560 มีกำไรสุทธิเฉียด 1,000 ล้าน โตเป็นประวัติการณ์ทะลุ 202% เทียบกับปี 2559 และ ยังคงมีความสามารถในอัตราการทำกำไรขั้นต้นสูงถึง 46.6% ซึ่งสูงขึ้นกว่าอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาส 3 ปี 2559 ที่อยู่ที่ 43.9% พร้อมโกยรายได้โตเท่าตัวรับแบ็กล็อกทยอยรับรู้แข็งแกร่ง ตะลุยงานไตรมาส 4 พร้อมสร้างรากฐานสู่แผนปี 2561

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคนซิงตัน, นอตติ้ง ฮิลล์, ไนท์บริดจ์, และพาร์ค เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,959.9  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.6% (%QoQ) จากไตรมาส 2 ปี 2560 และ เพิ่มขึ้นถึง 121.5% (%YoY) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2560 อยู่ที่ 4,014.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.3% (%YoY) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักๆ มาจากโครงการใหม่ 6 โครงการ ที่สามารถเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามแผน ขณะเดียวกันยังมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น ที่มีประวัติความสาเร็จและประสบการณ์ทางธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ทั้งในเอเชีย และ หลายประเทศทั่วโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดที่อยู่อาศัยสูงเป็นอันดับ 1 ใน 3 รวมทั้งมีแบรนด์อาคารชุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในการขยายการพัฒนาโครงการและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด

ขณะที่มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 779.3 ล้านบาท เติบโตขึ้น 45.4% (%QoQ) จากไตรมาส 2 ปี 2560  และ  เติบโตขึ้น 107.2% (%YoY) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 46.8% ซึ่งสูงขึ้นกว่าอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาส 3 ปี 2559 ที่อยู่ที่ 42.9% และสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2560 มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่  1,718.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 109.5% (%YoY)  คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 46.6% ซึ่งสูงขึ้นกว่าอัตรากำไรขั้นต้นงวดเก้าเดือนปี 2559 ที่อยู่ที่ 43.9% โดยความสามารถในการทำกำไรที่ดีมาจากกลยุทธ์ในการจัดหาที่ดิน และ การบริหารต้นทุนโครงการได้ดีอย่างต่อเนื่องตามแผน

ขณะเดียวกันไตรมาส 3 ปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 556.1 ล้านบาท เติบโตขึ้น 132.9% (%QoQ) จากไตรมาส 2 ปี 2560 และ   เติบโตขึ้นถึง 251.5% (%YoY) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 28.4% ซึ่งสูงขึ้นกว่าอัตรากำไรสุทธิของไตรมาส 2 ปี 2560 ที่อยู่ที่ 20.3% และ ไตรมาส 3 ปี 2559 ที่อยู่ที่ 17.9%และสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 966.7 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 202.5% (%YoY) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 24.1% ซึ่งสูงขึ้นกว่าอัตรากำไรสุทธิของงวดเก้าเดือนปี 2559 ที่อยู่ที่ 16.8% เนื่องจาก โครงการใหม่แล้วเสร็จรับรู้ได้ตามแผนเพิ่มขึ้น และ ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น รวมถึงจากการรับรู้กำไรพิเศษจากการร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด จากญี่ปุ่น ทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาสนี้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

“สำหรับช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 จะเป็นช่วงที่บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานเพื่อก้าวไปสู่ปีต่อๆ ไป ควบคู่กับการพัฒนาและเปิดขายโครงการใหม่ไปตามแผนงาน โดยจะมีการจัดแคมเปญที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัย เข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายด้วย” นายพีระพงศ์ กล่าว

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 43 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 44,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร