อสังหาฯปีหน้า ยังเป็นตลาดของรายใหญ่ครอง 70% เพอร์เฟค-แกรนด์ผนึกซูมิโตโมลงทุน4หมื่นล้าน 4 ปี

อสังหาฯปีหน้า ยังเป็นตลาดของรายใหญ่ครอง 70%
เพอร์เฟค-แกรนด์ผนึกซูมิโตโมลงทุน4หมื่นล้าน 4 ปี

“เพอร์เฟค” และแกรนด์ แอสเสท ผนึก”ซูมิโตโม ฟอเรสทรี”จัดตั้งบริษัท”แกรนด์สตาร์”ร่วมทุนต่อเนื่อง 4 ปี มูลค่า 4 หมื่นล้าน
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ผู้นำในธุรกิจป่าไม้และธุรกิจก่อสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ”บริษัท แกรนด์สตาร์ จำกัด”ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น “แกรนด์ แอสเสท” 40% “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” 11% “และ “ซูมิโตโม สิงคโปร์” 49% ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ”ซูมิโตโม ฟอเรสรี”

ทั้งนี้ แผนการลงทุนในระยะ 4 ปี นับจากนี้ปี 2561-2564 บริษัทมีแผนร่วมลงทุนทั้งโครงการแนวราบ และโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท แยกเป็นคอนโดมิเนียมใหม่ 3 โครงการ

โดยโครงการคอนโดมิเนียมจะร่วมทุนกับบริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮแทล แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบรฺิษัทในเครือ มูลค่าการลงทุน 20,000 ล้านบาทในระยะเวลา 4 ปี ประมาณ 4-5 โครงการ

ล่าสุดประกาศเปอดตัวโครงซุปเปอร์ลักร์ชัวรี่ แบรนด์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดฯ 45 ชั้น 300 ยูนิต ราคา 3 แสนบาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้น 10-100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดขายได้ในกลางปี 2561 คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2564

ขณะที่โครงการแนวราบจะร่วมลงทุนกับพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มูลค่าการลงทุน 20,000 ล้านบาท คาดว่าเซ็นสัญญากันได้ในต้นปีหน้า โดยเบื้องต้นจะพัฒนาบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 8-10 โครงการภายใน 4 ปี

สำหรับแนวโน้มยอดขายของบริษัททั้ง PF และ GRAND รวมกันในปี 2561 ตั้งเป้ายอดขายรวมอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจาก PF จำนวน 20,000 ล้านบาท และยอดขายจาก GRAND จำนวน 4,000 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 28 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 6 โครงการ และโครงการแนวราบ 22 โครงการ โดยจะมีโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น 2 โครงการ ที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านเดี่ยว. ขณะที่รายได้รวมในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 24% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะอยู่ 1.9 หมื่นล้านบาท

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่มีเงินลงทุน และศักยภาพในการแข่งขัน ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาด 70% ซึ่งรายกลางรายเล็กจะต้องหาพันธมิตรในการร่วมทุน และยังเห็นการเทคโอเวอร์โครงการอยู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เมื่อโครงการไหนทำตลาดไม่ได้ จะมีบริษัทรายใหญ่ที่มีศักยภาพ สร้างความมั่งคงให้กับตลาด