‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดตัว ‘LIFE สุขุมวิท 62’ รุกตลาดคอนโด ประเดิมไตรมาสแรก มูลค่า 2,000 ล้านบาท พร้อม ชู ‘AP i-Booking’ ยกระดับการขายออนไลน์เต็มรูปแบบ ตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคดิจิตอล

  • ประเดิมไตรมาส 1/2561 ส่งคอนโดร่วมทุนมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โครงการแรก ‘LIFE สุขุมวิท 62’ มูลค่า 2,000 ล้านบาท
  • ย้ำโพซิชั่นแบรนด์ LIFE ภายใต้แนวคิด ‘Platform of Success’ ชูจุดขายโลเคชั่นที่ดีที่สุด สะดวกทุกการเดินทางเชื่อมต่อ พร้อมผสานนวัตกรรมดิจิตอลยกระดับการใช้ชีวิตสู่ความสำเร็จแห่งอนาคต
  • AP i-Booking แพลตฟอร์มการจองคอนโดทางออนไลน์ที่มอบประสบการณ์ให้รู้สึกเสมือนมาซื้อเอง ณ โครงการ

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง ย้ำวิสัยทัศน์การพัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแห่งอนาคต รุกตลาดคอนโดตอบจริตคนรุ่นใหม่ ชูจุดขาย ‘Platform of Success’ เปิดตัวโครงการแฟลกชิพ LIFE สุขุมวิท 62 โครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG) บนถนนสุขุมวิท ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกการเดินทาง โดยการนำนวัตกรรมดีไซน์เข้ามายกระดับการใช้ชีวิตผ่านแนวคิดการออกแบบพื้นที่ชีวิตแห่งอนาคต รุกตลาดไตรมาสแรก เอพีสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นอสังหาฯ รายแรก ที่เปิดขายคอนโดมิเนียมบนแพลทฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการใช้ AP i-Booking ระบบจองคอนโดบนแพลทฟอร์มออนไลน์ที่มอบประสบการณ์พิเศษกับลูกค้าเสมือนการเข้ามาชมห้องตัวอย่างจริง ที่โครงการ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ด้วยความมั่นใจในศักยภาพโครงการ ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุด เพิ่มทางเลือกในการเดินทางเชื่อมต่อได้หลากหลาย ผสานนวัตกรรมดีไซน์ที่จะเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตระยะยาว และการปรับวิธีการขายรูปแบบใหม่ ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยมั่นใจว่า LIFE สุขุมวิท 62 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากดีมานด์กลุ่มลูกค้าคนเมืองที่มองหาคอนโดมิเนียมใหม่บนทำเลสุขุมวิทในราคาที่จับต้องได้ โดยจะเปิดจองโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 ราคาเริ่มต้น 120,000 บาท/ตร.ม. อย่างเป็นทางการผ่าน AP i-Booking ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 19.00 – 21.00 น.

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยว่า “เอพี ไทยแลนด์ พร้อมเปิดขาย LIFE สุขุมวิท 62 คอนโดร่วมทุนฯ โครงการแรกของไตรมาสนี้ ซึ่งจะเป็นโครงการต้นแบบที่เอพีเปลี่ยนแพลตฟอร์มการขายจากออฟไลน์สู่การจองผ่านระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการอสังหาฯ ไทย ด้วยการอำนวยความสะดวก ความมั่นใจในความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับการทำธุรกรรมสินค้าอสังหาฯ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงผ่านระบบออนไลน์ โดยเอพีได้ร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรชั้นนำ เพื่ออำนวยความสะดวกและความมั่นใจในการเข้าถึงการจองคอนโด LIFE สุขุมวิท 62ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ตอบรับพฤติกรรมลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่ ที่เปิดรับให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการ ใช้ชีวิตให้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าการยกระดับแพลตฟอร์มการขายผ่านระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญสู่ความสำเร็จทำให้สามารถปิดการขาย LIFE สุขุมวิท 62 ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว”

นอกจากนี้ LIFE สุขุมวิท 62 ยังสร้างความต่างด้วยการเลือกสรรทำเลศักยภาพ และมุ่งพัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยทำเลที่ตั้งที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลาย เพียง 200 เมตรถึงสถานีรถไฟฟ้า ‘บางจาก’ และ 500 เมตรจากทางด่วน ทำให้โครงการ LIFE  สุขุมวิท 62 มีความได้เปรียบในเชิงมูลค่าและทางเลือกที่มากขึ้น และนวัตกรรมดิจิตอลที่ผสานเข้าไปในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมวางระบบ Wifi ทั่วทั้งโครงการ ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด การออกแบบพื้นที่ชีวิตแห่งอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองขึ้นไปอีกขั้น อาทิ  Digital Co-working Space พร้อมติดตั้ง Cocoon Space ดีไซน์พิเศษให้เป็น Private Space แม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง ก็สามารถนั่งทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวน พร้อมเพิ่มพื้นที่ชีวิตให้ออกแบบการพักผ่อนตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่จำกัด โดดเด่นด้วยการผสานพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งโครงการ อาทิ Interlock Landscape ดึงพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติเข้าสู่ภายในล๊อบบี้ พร้อมการจัดวางที่นั่งและทางเดินในมุมที่ร่มรื่น เพื่อความสวยงามและความเป็นส่วนตัวสูงสุดเสมือนนั่งทำงานท่ามกลาง ธรรมชาติ พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ด้วย Ultimate Rooftop Facilities  อาทิ Aquascape สระว่ายน้ำแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่สามารถเปิดรับวิวสุขุมวิท และวิวโค้งน้ำบางกระเจ้าได้สุดสายตา รวมถึงยังมี Sky Fitness ห้องฟิตเนส มุมกว้างเพื่อการใช้ชีวิตแบบแอคทีฟพร้อมความเป็นส่วนตัวไปด้วยกัน

“ในส่วนของกระบวนการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Generations) ที่เปลี่ยนไป มักหาข้อมูลอย่างรอบด้านและการบริโภคข่าวสารผ่านเครื่องมือที่เข้าถึงง่าย และเพียงพอต่อการตัดสินใจเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะเข้าเยี่ยมชมโครงการเป็นขั้นตอนสุดท้าย จากการสำรวจสถิติการเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ APTHAI.COM พบผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์จาก 2.5 แสนคนในปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 5.9 ล้านคนในปี 2560 และกว่า 70% ของลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ในช่วงอายุ 25-44 ปี อีกทั้ง ความสำเร็จจากการเปิดจองรอบพิเศษ AP i-Booking กับ 2 คอนโดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ LIFE One Wireless และ LIFE อโศก – พระราม 9 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจำนวนลูกค้าที่ให้ความสนใจจองในรอบออนไลน์สูงกว่าจำนวนยูนิตที่เปิดขายกว่า 9 เท่า และความเร็วสูงสุดในการจองห้องชุดผ่าน AP i-Booking เพียง 1.21 นาทีเท่านั้น เป็นตัวการันตีพฤติกรรมและความคุ้นชินกับเทคโนโลยีของลูกค้ากลุ่มนี้ ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างมากกับการปรับวิธีการเปิดขายจากออฟไลน์สู่ระบบ AP i-Booking อย่างเต็มรูปแบบ จะตอบโจทย์และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการคอนโดไทยอย่างแน่นอน” นายวิทการกล่าวเสริม

“สำหรับภาพตลาดคอนโดแนวรถไฟฟ้าบนถนนสุขุมวิท สามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ได้แก่ 1) สุขุมวิทตอนต้น (สถานีนานา-เอกมัย) พบคอนโดระดับราคาขาย 290,000-400,000 บาท/ตร.ม ทำเลใจกลางเมือง ศูนย์รวมย่านธุรกิจชั้นนำ โดยพบสินค้ากลุ่มลักชัวรี่เป็นส่วนใหญ่ 2) สุขุมวิทตอนกลาง (สถานีพระโขนง-นานา) พบคอนโดระดับราคา 100,000-250,000 บาท/ตร.ม. ทำเลศักยภาพแวดล้อมด้วยการเติบโตของซิตี้เทรนด์ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากการขยายออกของศูนย์กลางย่านธุรกิจอย่างสุขุมวิทตอนต้นได้ชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยดันให้เกิดดีมานด์ในย่านอย่างต่อเนื่อง โดยความท้าทายของผู้ประกอบการ คือ กลยุทธ์ในการเลือกที่ดิน และการบริหารแพ็คเกจราคา ที่จะสามารถตอบดีมานด์ได้ เอพีเล็งเห็นช่องว่างในการพัฒนาคอนโดเพื่อตอบโจทย์ดีมานด์กลุ่มนี้ และในส่วนของ 3) สุขุมวิทตอนปลาย (สถานีแบริ่ง-เอราวัณ) พบคอนโดระดับราคา 70,000-120,000 บาท/ตร.ม.” นายวิทการกล่าวเพิ่มเติม

คอนโดมิเนียม ‘LIFE สุขุมวิท 62’ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โครงการร่วมทุนโครงการที่ 12 ระหว่างเอพี (ไทยแลนด์) ​และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ที่จะเปิดตัวเป็นโครงการแรกในปีนี้ ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดบนถนนสุขุมวิทรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการทั้งโรงพยาบาล สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้าชั้นนำเดินทางสะดวกเพียง 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าบางจาก และเพียง 500 เมตรจุดขึ้นลงทางด่วน ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท หรือ เริ่ม 120,000 บาท/ตร.ม. บนพื้นที่ทั้งหมด 2-2-67.2 ไร่ ประกอบด้วยอาคารที่พักสูง 24 ชั้น โดดเด่นด้วยความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 438 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1) สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร 3) ห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (แบบพิเศษ) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 38–39 ตารางเมตร และ  4) ห้องชุด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50-68 ตารางเมตร

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปี 2561 นี้ เอพี (ไทยแลนด์) เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนทั้งสิ้น 34 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 49,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท

ในส่วนของการเปิดโครงการใหม่ของกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ได้แก่ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น จำนวน 1,049 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดดเด่นด้วย 1 ก้าวจากสถานีบางหว้า สถานีเชื่อมต่อขนาดใหญ่ระหว่าง BTS และ MRT ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท เปิดขายในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และ LIFE สุขุมวิท 62 คอนโดมิเนียมร่วมทุนฯ สูง 24 ชั้น จำนวน 438 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เพียง 200 เมตรจาก BTS บางจาก ซึ่งเตรียมเปิดขายผ่านระบบออนไลน์ AP i-Booking ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 19.00 – 21.00 น.

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา (2560) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของสินค้าทั้งกลุ่มคอนโด และแนวราบได้มากถึง 42,900 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เกินจากเป้าหมาย ยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2560 คือ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% หากเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้นั้น นอกจากจะมาจากการเปิดตัวสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 22 โครงการใหม่ ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางยอดขายอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมาจากการประสบความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว LIFE วัน ไวร์เลส และ LIFE อโศก-พระราม 9  ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ประมาณ 90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects) อีกกว่า 90 โครงการ ก็มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้