‘เอพี ไทยแลนด์’ ปลื้มยอดขายไตรมาส 1 โตครบลูปรวมกว่า 168% มุ่งเสริมสร้างการเติบโตด้วยกลยุทธ์ 5 มิติสู่ความสำเร็จ

  • ปิดไตรมาสแรกปี 61 ด้วยยอดขาย 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 168% เติบโตแบบครบลูปทั้งสินค้าแนวราบและแนวสูง
  • ไตรมาส 2 เตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ พร้อมยังคงเดินหน้าซื้อที่ใหม่ต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ (3 เม.ย. 61) – บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย เปิดเผยตัวเลขยอดขายไตรมาส 1 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 สามารถ สร้างยอดขายได้แล้วถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 168% โดยสินค้าแนวราบเติบโตสูงถึง 64% หรือเท่ากับ 5,200 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมโตถึง 770% หรือเท่ากับ 4,800 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 30% ของเป้ายอดขาย   ปี 2561 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 33,500 ล้านบาท)

สำหรับการดำเนินงานในปี 2561 เอพียังคงมุ่งรักษาการเป็น 1 ใน 3 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยมีพันธกิจสำคัญ คือ “การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย” ครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงการคิดค้น นวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ เตรียมเสริมสร้างการเติบโตด้วยกลยุทธ์ 5 มิติสู่ความสำเร็จ 1. สานต่อความสำเร็จกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป 2. เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury 3. รุกตลาดสินค้าแนวราบสร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม 4. ขยายพอร์ตตลาดต่างประเทศ 5. พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้านเอพี

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยทัศนะต่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมาและแนวโน้มไตรมาส 2 ว่า “ตลาดมีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้นหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากปัจจัยบวกหลายๆ ประการ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น การลงทุนของภาครัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มในอัตราช้า เราเชื่อว่ากำลังซื้อในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ไม่มากนัก ซึ่งเห็นภาพได้อย่างชัดเจนจากอัตราการเติบโตด้านยอดขายในไตรมาส 1 ของเอพี โดยเฉพาะสินค้าแนวราบที่ปรับตัวสูงขึ้นถือเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เป็นอย่างดี  สำหรับภาพรวม ตลาดในไตรมาส 2 เชื่อว่าการแข่งขันจะเข้มข้มกว่าในไตรมาสผ่านมา ด้วยจำนวนโครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวมากขึ้น และด้านซัพพลายที่ตอบโจทย์ตลาดระดับกลางบนขึ้นไปยังคงได้รับการตอบรับที่ดี”

“จากการปิดการขายโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 ผ่านระบบจองทางแพลทฟอร์มออนไลน์ได้หมดทุกยูนิต ภายในเวลาเพียง 20 นาที สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า วันนี้ลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้อที่เปลี่ยนไป คุ้นชินกับการซื้อผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งยังคงมีกำลังซื้อที่สูง ในขณะที่กลุ่มตลาดระดับกลางถึงล่าง             มีแนวโน้มยังทรงตัว หรือขยายตัวช้า เนื่องจากกลุ่มลูกค้าในตลาดดังกล่าวยังมีปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง” นายอนุพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะมาจากการเปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมใหม่ LIFE สุขุมวิท 62 และแอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์ รวมถึงคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในเครือเอพีแล้วนั้น สินค้าแนวราบทั้ง บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมของเอพีก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ โดยเป็นผลมาจากแนวทาง การพัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบตัวบ้าน และสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่คำนึงถึงความสมบูรณ์แบบของคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนการกำหนดแพคเกจราคาที่ตอบรับกับความสามารถในการผ่อนชำระของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดถือว่ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก

ในส่วนของเอพีเองนั้นในไตรมาส 2 เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ บ้านเดี่ยว 2 ทำเล “CENTRO รังสิต คลอง 4-วงแหวน” ซึ่งจะเริ่มเปิดขายวันที่ 28-29 เมษายน เริ่ม 2.95 ล้านบาท และ “CENTRO ราชพฤกษ์-สวนผัก” เปิดขายวันที่ 5-6 พฤษภาคม เริ่ม 7.2 ล้านบาท และทาวน์โฮม “บ้านกลางเมือง วัชรพล ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายประมาณช่วงเดือนมิถุนายน

สรุปในปี 2561 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 34 โครงการมูลค่า 49,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายที่ 33,500 ล้านบาท โดยเอพียังคงมีแผนในการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีโอกาสพร้อมเปิดขายเพิ่มจากแผนที่ตั้งไว้ในปีนี้