8 เซเลบริตี้วัยเก๋า กับแคมเปญ “The Golden Spirit Gallery” The Best 8 Senior Icons of Thailand

8 เซเลบริตี้วัยเก๋าระดับไอคอน ตบเท้าถ่ายทอดพลังชีวิตสูงวัย
ผ่านแคมเปญ “The Golden Spirit Gallery” The Best 8 Senior Icons of Thailand
พ่วงกิจกรรมประกวดภาพถ่ายบันดาลใจ ชิงรางวัลกว่า 300,000 บาท

 

เรียกว่ารับพลังแห่งแรงบันดาลใจกันไปอย่างเต็มที่ สำหรับงานเปิดตัวแคมเปญ “The Golden Spirit Gallery”โดย“จิณณ์ เวลบี้อิ้ง เคาน์ตี้”แคมเปญพิเศษที่ต้องการกระตุ้นให้คนไทยได้ตระหนักว่า คนวัยเกษียณยังเป็นวัยที่มีพลังและยังสร้างแรงบันดาลใจได้อีกมาก ผ่านกิจกรรมประกวดภาพถ่ายส่งต่อแรงบันดาลใจของคนวัยเกษียณ และนิทรรศการภาพถ่ายของ 8 เซเลบริตี้ระดับไอคอนจากหลากหลายวงการ ได้แก่ นพ.เฉก ธนะสิริ, อาจารย์วนิดา พึ่งสุนทร, สุเชาว์ พงษ์วิไล, ภัทราวดี มีชูธน, เผ่าทอง ทองเจือ, พนารัตน์ บุนนาค, ภูษิต พัฒนปราการ (ป๋าตึก) และพอลล่า เวสเทอร์ฟิลด์ซึ่งทั้งหมดได้มาปรากฏตัวบนเวทีที่งานเปิดตัวซึ่งจัดขึ้นมื่อเร็วๆ นี้ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ พร้อมทั้งพูดคุยถึงแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตวัยเกษียณของแต่ละคน พร้อมทั้งเผยเรื่องราวแห่งพลังแห่งชีวิตหรือ golden spirit ที่ทำให้เขาและเธอใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพและมีความสุขในทุกวันได้อย่างที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายคนแน่นอน

มร. จอห์น ลี ประธานกรรมการบริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์แคร์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” ผู้บริหารวัย 71 ปีและผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญ “The Golden Spirit Gallery” ที่ยังคงสนุกกับการใช้ชีวิตในทุกแง่มุมทั้งเรื่องการทำงานและไลฟ์สไตล์ที่รักการถ่ายภาพ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข ถ้าเรายังหายใจชีวิตก็ยังมีไฟได้เสมอ หลายคนอาจจะนึกว่า พออายุ 60 เกษียณแล้วคือจบ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่ในความเป็นจริง คนวัยเกษียณยังทำอะไรได้อีกเยอะ เหมือนกับตัวผม ที่ทุกวันนี้การทำงานที่นี่คือความสุข และผมเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งที่เรียกว่า Golden Spirit ซ่อนอยู่ หากเรารู้จักใช้ชีวิตด้วยทัศนคติที่ดี จินตนาการที่ไม่หยุดฝัน และพลังที่ยังไม่หมดไฟ วัยเกษียณก็จะกลายเป็นช่วงเวลาทองของชีวิต สามารถใช้ชีวิตอย่างสนุก มีความสุข และสุขภาพแข็งแรง ไม่มองว่าอายุเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต ที่สำคัญ Golden Spirit ที่กล่าวถึงนี้ ยังส่งต่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างพลังชีวิตให้แก่ผู้สูงวัยคนอื่นต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมผู้สูงอายุอย่างมีพลังและมีประสิทธิภาพได้ในอนาคต

      ครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธนศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงวัย 69 ปี หนึ่งในเซเลบริตี้ที่เข้ามาร่วมแคมเปญกับจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ที่หลายคนอาจรู้จักในบทบาทของการเป็นครูด้านการแสดง แต่นอกเหนือจากนั้น ครูเล็กยังเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนภัทราวดีหัวหินขึ้นในวัย 60 ปี ด้วยปรัชญาในการใช้ศาสตร์และศิลป์ทุกแขนงเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการศึกษาในทุกระดับชั้นตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 บอกว่า “อายุไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ ที่ใหญ่กว่าคือการได้ทำในสิ่งที่มีคุณค่าทั้งต่อตนเองและคนอื่น ชีวิตในตอนนี้ของดิฉันคือพร้อมที่จะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่าถ้ายังไม่ไปก็ต้องทำอะไรที่มันมีประโยชน์ แล้วก็เตรียมตัวเตรียมใจ คนแก่นี่ Future ไม่มี มีแต่ Past ก็ต้องเก็บ Past ให้ดีที่สุด เอาไว้ให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ ส่วน Future ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นอะไร ตอนนี้ก็ทำให้ดีที่สุด จะได้ไปเกิดแบบสบายๆ สำหรับชาตินี้ ดิฉันถือว่าได้ใช้ชีวิตเต็มที่เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะใช้ได้แล้ว ถ้าวันนี้จะมีความหวังเรื่องอะไร ก็น่าจะเป็นเรื่องการได้เห็นเด็กๆ ที่เราสอนหนังสือมาเติบโต การได้เห็นมันก็เป็นความรู้สึกที่ดี ก็สร้างคนไปเรื่อยๆ แล้วเราจะได้เห็นแค่ไหนก็แค่นั้น”

พนารัตน์ พิสุทธิ์ศักดิ์ บุนนาค ยืนยันว่า “ชีวิตวัยเกษียณที่มีความสุข คือการหลุดจากกรอบต่างๆ เพื่อกลับสู่ความเป็นธรรมชาติ” เธอจึงตัดสินใจหันหลังให้กับสังคมเมืองหลวงและไปใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างมีคุณภาพร่วมกับครอบครัว ท่ามกลางธรรมชาติที่หัวหิน โดยท่านเป็นเบื้องหลังสำคัญในการก่อตั้ง ‘ไร่เก็บ – Geb 100% Organic Farm Huahin’ ร่วมกับลูกหลาน ด้วยความตั้งใจที่จะปลูกผักสดปลอดสารพิษเพื่อรับประทานเองและแบ่งปันให้กับสังคมรอบข้าง ทั้งการนำผักปลอดสารพิษเข้าสู่โรงเรียน โรงแรม และร้านอาหารในหัวหิน “ดิฉันตั้งใจที่จะใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข โดยไม่ยึดติดกับกรอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรอบหน้าที่ความเป็นแม่ ซึ่งสามารถลดบทบาทลงได้เมื่อลูกทุกคนถึงวัยที่ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี หรือกรอบความสวยงามที่ปรุงแต่ง โดยไม่ย้อมผมหรือแต่งองค์ทรงเครื่องจนมากเกิน เรียกว่าเป็นการกลับสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริง สิ่งที่สำคัญในวัยนี้คือ การมีความสุขกับการเป็นผู้ให้และผู้รับที่ดี ซึ่งก็คือการให้สิ่งต่างๆ แก่ลูกหลานยามเมื่อเขาต้องการ และการรับสิ่งต่างๆ จากลูกหลานอย่างพอดีโดยไม่คาดหวังค่ะ”

อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ อดีตคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการผู้ค้นคว้า รักษา และสืบสานงานหัตถศิลป์ โดยเฉพาะผ้าไทยให้ยังคงมีคุณค่าและมีลมหายใจบนประเทศนี้ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น บอกว่า “พลังชีวิตของผมคือการทำงาน สมัยเด็กก็ชอบทำกิจกรรม แล้วการเป็นลูกคนเดียวยิ่งทำให้เรารู้จักที่จะต้องคิดและตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง พอเราโตขึ้น ทำงาน ผมเป็นคนเลือกงานด้วยตัวเองแล้วก็สนุกกับงานมาก ผมไม่มีเสาร์อาทิตย์มาสามสิบกว่าปีแล้ว ถ้าเราอยากพักเราก็กำหนดตัวเองว่าเราจะพักเมื่อไหร่ พออายุมากขึ้นก็จะคิดเสมอว่า เวลาของเราน้อยลง ก็ต้องยิ่งฮึดทำงานให้มากขึ้น เพราะถือว่าเราเคาน์ดาวน์แล้ว หลังเกษียณอายุราชการจากธรรมศาสตร์ ผมก็เป็นอาจารย์พิเศษที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและโรงเรียนจิตรลา ซึ่งสอนมา 26-27 ปีแล้ว ตอนเกษียณก็ไปกราบบังคมทูลลาสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีว่าจะขอเกษียณ พระองค์ท่านก็รับสั่งว่า “ยังไม่ให้เกษียณ เพราะพระองค์ท่านก็ยังไม่เคยเกษียณและจะทำงานไปจนวันตายเหมือนกัน” จากรับสั่งตรงนี้ ผมเลยรู้สึกว่า ตัวเราต่ำต้อยน้อยนิด แต่ถ้ายังทำประโยชน์ได้เราก็ควรจะทำงานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เหมือนกัน”

ด้าน “คนเก๋ ไม่ใช่คนแก่” อย่าง ภูษิต พัฒนปราการ หรือ “ป๋าตึก” แฟชั่นไอคอนวัย 65 ที่สร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนได้เสมอทั้งในเรื่องการแต่งตัวและวิธีการใช้ชีวิต ป๋าตึกเล่าว่า “พลังชีวิตของป๋าคือการได้อยู่กับมนุษย์ ป๋าเป็นคนชอบมนุษย์ ไม่ได้ชอบธรรมชาติ ซึ่งอันนี้คงเป็นความสุขและรสนิยมของแต่ละคน ป๋าจึงเป็นคนชอบแต่งตัว และชอบไปเที่ยวเมืองมากกว่าเที่ยวธรรมชาติ แล้วก็ชอบดูหนัง เพราะการดูหนังคือการได้ติดต่อกับโลกภายนอก แต่ป๋าก็มีธรรมะในหัวใจนะ ไม่ดราม่ากับชีวิต เพราะเราถือว่าโชคดีมากแล้วที่มาถึงตรงนี้ได้ ตั้งแต่เด็กเรามีบริษัททัวร์ ชีวิตของป๋าในโลกนี้จึงเหมือนมาทัวร์ เวลาคุณไปทัวร์คุณจะไม่ค่อยมีความทุกข์ แต่จะทุกข์จะสุขนั่นคือโปรแกรมทัวร์ของป๋าที่เราจะต้องผ่านมันไป แต่เราก็เตรียมพร้อมตลอดเวลานะ อยู่ก็ได้ ตายก็พร้อม เพราะคนที่เก่งที่สุดในโลกคือคนที่อยู่ได้นานที่สุด เพราะงั้น เราต้องมีความสุขในทุกวันและทำในสิ่งที่เราอยากทำและสนุกกับมันทุกวัน”

ขณะที่สุเชาว์ พงษ์วิไล นักแสดงเจ้าบทบาท ที่ได้ทุ่มเทเวลาชีวิตในวัยหนุ่มให้กับอาชีพนักแสดงอย่างเต็มที่ บอกว่า “การเกษียณเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่มอบเวลาให้ผมได้ทำในสิ่งที่รักและมีความสุขที่สุด ผมชอบปั่นจักรยานมาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ นอกจากจะเป็นการดูแลสุขภาพแล้ว การปั่นจักรยานไปในที่ต่างๆ ยังทำให้ผมได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ เสมือนได้ท่องเที่ยว การฝึกฝนในระยะทางสั้นๆ นำไปสู่การปั่นจักรยานข้ามจังหวัดบนระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร และท้าทายให้ผมทำตามฝันที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งก็คือการปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ไปสู่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ผมตั้งแต่จะทำในช่วงต้นปีหน้า  แต่จริงๆ การทำตามฝันไม่จำเป็นต้องรอเกษียณ และสำหรับคนวัยเกษียณที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ขอให้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักต่อไป เพราะแม้เวลาจะทำให้อายุมากขึ้น แต่ทักษะและความชี่ยวชาญที่ถูกฝึกฝนอยู่เสมอ จะไม่สึกหรอไปตามกาลเวลาครับ”

นอกเหนือจากนิทรรศการของ 8 เซเลบริตี้ระดับไอคอนแล้ว แคมเปญ “The Golden Spirit Gallery” โดย “จิณณ์ เวลบี้อิ้ง เคาน์ตี้”ยังจัดกิจกรรม Jin Golden Spirit Photo Contestเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปถ่ายภาพผู้สูงวัยที่ดำเนินชีวิตด้วย Golden Spirit ไม่ว่าจะถ่ายด้วยตัวเองหรือถ่ายบุคคลใกล้ชิดก็ได้ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ โดยส่งเข้าไปที่เฟซบุ๊คเพจของโครงการฯ ที่ www.facebook.com/jinwellbeing ชิงรางวัลiPhoneและรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 15 ตุลาคมนี้