นิปปอนเพนต์ ผู้นำสีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการจัดอันดับ Top 25 Paint Manufacturers in Asia Pacific จาก Asia Pacific Coatings Journal ประกาศเดินหน้าเปิดตัวแคมเปญใหม่ “เพราะความใส่ใจ ทำให้เราเชี่ยวชาญ” ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกงานสี The Coatings Expert

นิปปอนเพนต์ ผู้นำสีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการจัดอันดับ  Top 25 Paint Manufacturers in Asia Pacific จาก Asia Pacific Coatings Journal ประกาศเดินหน้าเปิดตัวแคมเปญใหม่ “เพราะความใส่ใจ ทำให้เราเชี่ยวชาญ” ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกงานสี The Coatings Expert

“นิปปอนเพนต์” ขึ้นแท่นอันดับ 1 ผู้นำสีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการจัดอันดับของ Top 25 Paint Manufacturers in Asia Pacific โดย Asia Pacific Coatings Journal (APCJ) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตอกย้ำความเป็น The Coatings Expert เดินหน้าต่อยอดสู่แคมเปญใหม่ “เพราะความใส่ใจ ทำให้เราเชี่ยวชาญ” สนับสนุนทุกความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันของพนักงานนิปปอนเพนต์ นำมาซึ่งการคิดค้นวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค พร้อมมั่นใจธุรกิจปี “เสือ” กลับมาคึกคัก   ​

​นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนิปปอนเพนต์ในประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นิปปอนเพนต์ ได้รับการจัดอันดับ1 จากการจัดอันดับ Top 25 2021 Manufacturers in Asia Pacific Coatings  โดย APCJ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยการจัดอันดับครั้งนี้พิจารณาจากการเป็นบริษัทที่มีได้ยอดขายสีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก “นิปปอนเพนต์” มียอดขาย 6,880 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นบริษัทที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งการจัดอันดับนี้ถือเป็นการยืนยันถึงความนิยมของแบรนด์นิปปอนเพนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้าง และผู้บริโภคในระดับสากล และสะท้อนความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีให้แบรนด์ในระดับเอเชีย

​ปัจจุบันอุตสาหกรรมสีทาบ้านและอาคารในภูมิภาคเอเชีย จาก 25 บริษัทชั้นนำมีมูลค่าตลาดรวมกันราว 23,916 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยนิปปอนเพนต์มีสัดส่วนยอดขายคิดเป็น 6,880 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดยรวม ทำให้ตลาดอุตสาหกรรมสีทาบ้านและอาคารมีการเติบโตร้อยละ 2  โดยนิปปอนเพนต์ เป็นผู้นำในตลาดสีทาบ้านและอาคารในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน  สิงคโปร์  อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง  รวมถึงในตะวันออกกลาง อาทิ บังคลาเทศ  ปากีสถาน  อิหร่าน เป็นต้น

​ปัจจัยที่ทำให้นิปปอนเพนต์ ประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียคือ การให้ความสำคัญกับบุลคลากรในองค์กรและลูกค้า รวมถึงเรื่องของซัพพลายเชน ที่พร้อมจะช่วยแก้ปัญหาและให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกกลุ่ม และการเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องทั้งในด้านบุคลากร และการขยายกิจการในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุนเองและการควบรวมกิจการ (M&A)  ซึ่งการทำธุรกิจในแต่ละประเทศจะอยู่ภายใต้แนวคิด Think Global Act Local ตามความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ

​“ความสำเร็จของนิปปอนเพนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะถูกสานต่อทั้งด้านนวัตกรรมและบริการ มาสู่ประเทศอื่นๆ โดยนิปปอนเพนต์ ประเทศไทย ได้นำเสนอนวัตกรรมเพื่อเป็นโซลูชั่นให้กับลูกค้าทั้งกลุ่ม B2B และ B2C ผ่านความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสีทาบ้านและอาคาร (The Coatings Expert) ที่มีการพัฒนาและนำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง”

​สำหรับแผนกลยุทธ์ของนิปปอนเพนต์ ประเทศไทยใน 3-5 ปี คือการก้าวขึ้นเป็นบริษัทสีทาบ้านและอาคารอันดับ 1 ในใจของผู้บริโภค ภายใต้โรดแมป “Total Coating Solutions” ที่พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรม ยกระดับบริการพร้อมให้คำปรึกษา แก้ปัญหาต่างๆ ให้กับลูกค้าในทุกๆกลุ่ม โดยกลยุทธ์นี้ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง พร้อมกันนี้นิปปอนเพนต์เดินหน้าสานต่อแคมเปญ “เพราะความใส่ใจ ทำให้เราเชี่ยวชาญ” โดยมุ่งเน้นการสื่อสารให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่แตกต่างของพนักงานนิปปอนเพนต์ ที่หลอมรวมกันเป็น DNA ของบริษัท ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชั่นที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค

​โดยแคมเปญ “เพราะความใส่ใจ ทำให้เราเชี่ยวชาญ” นำเสนอเรื่องราวของคนในองค์กรที่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน ใส่ใจทุกขั้นตอน และผ่านกระบวนการคิดที่รอบคอบ เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทพร้อมสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้ใช้ชีวิตในสิ่งที่ชอบไม่ว่าจะเป็นด้านการทำอาหาร ชงกาแฟ หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้ฯลฯ ก็พร้อมส่งเสริมและใส่ใจในทุกๆ ด้านเพื่อสะท้อนความเป็นผู้เชี่ยวชาญ ของนิปปอนเพนต์

​นายวัชระ กล่าวอีกว่า ในปี 2565 นี้ แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดของสายพันธุ์โอมิครอน แต่จากมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อีกทั้งคนไทยส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนวัคซีนครบโดสแล้ว ผลกระทบจากการระบาดในระลอกใหม่นี้ จึงคาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นเท่านั้น ขณะที่ล่าสุดภาครัฐเองเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการความปลอดภัยของสาธารณสุข โดยปรับลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเหลือง) ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนเองผ่อนคลายในการดำเนินกิจการและใช้ชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น

​สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของนิปปอนเพนต์ในปีนี้ มุ่งมั่นในการเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสีทั้งระบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตอบรับต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มงานโครงการ (B2B) ที่เน้นการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมคุณภาพสูงเพื่อลดต้นทุนการทำงาน และลดการใช้แรงงานซึ่งปัจจุบันแรงงานเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้ประกอบการกำลังเผชิญ แ รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคท (B2C)  ที่ต้องนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อตอบรับเทรนด์โลกในปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสีทาบ้านเพื่อสุขภาพ นวัตกรรมป้องกันเชื้อ  ไวรัสและแบคทีเรีย  เป็นต้น

​“ทิศทางตลาดสีทาบ้านและอาคารในปีนี้ มีแนวโน้มดีขึ้น จากปัจจัยบวกเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจกลับมาเดินหน้าต่อได้ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบ Test & Go  ทำให้ธุรกิจในภาคบริการกลับมาคึกคัก ห้าง โรงแรม ร้านอาหาร กลับมาเดินหน้าได้ มีการปรับปรุงรีโนเวท และเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ปัจจัยลบที่ต้องเฝ้าระวังคือ เรื่องของต้นทุนวัตถุดิบเช่น เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ทำให้ภาพรวมของต้นทุนสูงขึ้น โดยพบว่า มีต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-30% ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น”

อ้างอิงจาก: Top25 2021 Paint Manufacturers in Asia Pacific. Asia Pacific Coatings Journal, pp. 14