แสนสิริปลื้มนักลงทุนตอบรับหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY#2 ยอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขาย 1,000 ล้านบาท ใน 10 นาที ส่งท้ายปีแห่งความสำเร็จด้านการพลิกโฉมการลงทุน ให้เข้าถึงง่ายและเท่าเทียม พร้อมรุกต่อยอดการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ เตรียมเปิดตัวในปี 2565

แสนสิริปลื้มนักลงทุนตอบรับหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY#2
ยอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขาย 1,000 ล้านบาท ใน 10 นาที
ส่งท้ายปีแห่งความสำเร็จด้านการพลิกโฉมการลงทุน ให้เข้าถึงง่ายและเท่าเทียม
พร้อมรุกต่อยอดการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ เตรียมเปิดตัวในปี 2565
 

  • แสนสิริปลื้มนักลงทุนตอบรับ “หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY#2” ยอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขาย 1,000 ล้านบาท ใน 10 นาที หลังเปิดจองซื้อผ่าน SCB Easy App เพียงช่องทางเดียวเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
  • เผยนักลงทุนให้ความเชื่อมั่นต่อเนื่องจากหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY รอบแรก ที่ยังมีดีมานด์จากนักลงทุนรายย่อยที่พลาดโอกาส ส่งผลให้ตอบรับจองซื้ออย่างรวดเร็วและมียอดจองซื้อเต็มจำนวนในรอบนี้ที่ 2,100 ราย ประกอบด้วยทั้งนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยตามวัตถุประสงค์ในการเป็น “หุ้นกู้ที่ทุกคนเข้าถึงได้และมีโอกาสซื้อเท่าเทียม
  • จุดพลุส่งท้ายปีแห่งความสำเร็จ ในการเป็นผู้นำปฎิวัติการลงทุนในหุ้นกู้ พลิกโฉมการลงทุนหุ้นกู้บริษัทเอกชนให้ทุกคนเข้าถึงได้และมีโอกาสซื้อเท่าเทียมกัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริ ในการเป็นแบรนด์ที่จับต้องง่ายและแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ขณะที่การลงทุนก็ต้องเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม 
  • พร้อมเตรียมต่อยอดเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ ทั้งการระดมทุนรูปแบบใหม่และนวัตกรรมทางการเงินที่ดึงดูดนักลงทุนและสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์แสนสิริ เตรียมเปิดตัวในปี 2565

นายวิชาญ  วิริยะภูษิต รักษาการ ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า ปี 2564 เป็นปีที่แสนสิริเติบโตแบบก้าวกระโดดในด้านการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ทั้งการเป็นผู้นำด้านการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมนักลงทุน และการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ตอบรับเทรนด์โลกการเงินดิจิทัล รับความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคต อาทิ การออก “หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY” หุ้นกู้ที่เท่าเทียม เข้าถึงได้ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 บาท ครั้งแรกของเมืองไทย ที่ประสบความสำเร็จในทั้ง 2 รอบที่เปิดจองซื้อ

“หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY ที่เปิดให้จองซื้อในทั้ง 2 รอบ มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจจองซื้อ ส่งผลให้ยอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขายอย่างรวดเร็ว โดย “หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY” มียอดจองซื้อเต็มจำนวนมูลค่ารวม 500 ล้านบาทจากทั้งนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนรายย่อยประมาณ 1,700 ราย ที่เข้าถึงหุ้นกู้แสนสิริได้ ตรงตามวัตถุประสงค์ในการเป็น “หุ้นกู้ที่ทุกคนเข้าถึงได้และมีโอกาสซื้อเท่าเทียมกัน”  ขณะที่ “หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY#2” ที่เปิดให้จองซื้อเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนรายย่อยที่ยังมีดีมานต์และพลาดโอกาสลงทุนจากหุ้นแสนสิริ i-EASY ล้อตแรก ก็มียอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขาย 1,000 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 10 นาที หลังเปิดจองซื้อผ่าน SCB Easy App เพียงช่องทางเดียวเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม โดยมีนักลงทุนทั้งรายใหญ่และนักลงทุนรายย่อยประมาณ 2,100 ราย ที่เข้าถึงได้ ตอกย้ำเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของแสนสิริ ในการเป็นแบรนด์ที่จับต้องง่ายและ “แบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้” ขณะที่การลงทุนก็ต้องเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมเช่นกัน” นายวิชาญ กล่าว

นอกจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแสนสิริ ความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริ และหุ้นกู้แสนสิริ จากการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีความมั่นคง และเป็นทางเลือกที่ดีในการออมเงินที่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก รวมถึงที่สำคัญคือ “การเป็นหุ้นกู้ที่ทุกคนเข้าถึงได้และมีโอกาสซื้อเท่าเทียมกัน” แสนสิริยังได้มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ ที่ตอบรับความต้องการของลูกค้า เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนและสนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงการมีบ้านได้ง่ายขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การเพิ่มสภาพคล่องให้แก่หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY ในล้อตแรก ด้วยการประกาศรับหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY ในการซื้อบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ของแสนสิริได้ทุกโครงการ ด้วยไฮไลท์ การใช้หุ้นกู้แทนเงินสด เพิ่มสภาพคล่อง พร้อมยังได้ดอกเบี้ยลงทุน 3% ต่อปีจากหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY ต่อเนื่องจนครบกำหนดชำระ โดยไม่เสียประโยชน์การลงทุน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกลงทุนไทยกับนวัตกรรมการเงินใหม่ ที่หุ้นกู้มีสภาพคล่องใช้แทนเงินสดได้ ทำให้ตอบโจทย์นักลงทุนรายย่อยที่อยากมีบ้าน และอยากได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้ไปพร้อมกัน ซึ่งแสนสิริยังได้เล็งต่อยอดรับหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY#2 ในการซื้อบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ของแสนสิริได้ทุกโครงการเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย

นอกจากนี้แสนสิริ ยังมีผลงานการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ด้วยการจับมือ XSpring และ Bitazza​ (บิทาซซ่า) โบรกเกอร์ที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและทั่วโลก เปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ใช้คริปโทซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริ พร้อมยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางโครงการได้ทุกโครงการ ครั้งแรกของวงการอสังหาฯ ที่มีจุดแข็งในการเปิดรับทุก Wallet ไม่จำกัด และคอนเฟิร์มเรตได้ภายใน 5 นาที ด้วยคริปโทถึง 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH) , USDC และ USDT เพื่อเป็นทางเลือกและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งประสบความสำเร็จจากการใช้คริปโทฯ ซื้อบ้าน ได้กว่า 100 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 1 เดือน

“แสนสิริประสบความสำเร็จจากการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งเพื่อระดมทุนและดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่ตอบรับเทรนด์โลกการเงินดิจิทัลและตอบโจทย์พฤติกรรมนักลงทุนและกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องมาตลอดปี 2564 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยสภาพคล่องที่มีในมือถึง 15,000 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจ จากกลยุทธ์บริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนที่ดี ในภาวะที่ต้องรับมือกับสถานการณ์โควิด ซึ่งบริษัทฯ ยังได้เตรียมต่อยอดพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน ทั้งการระดมทุนรูปแบบใหม่และนวัตกรรมทางการเงินที่จะดึงดูดนักลงทุนและสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์แสนสิริ ที่พร้อมเตรียมเปิดตัวในต้นปี 2565 ที่จะนับเป็นการพลิกโฉมโลกการลงทุนไทยกับนวัตกรรมทางการเงินใหม่อีกครั้ง ที่ต้องรอติดตาม” นายวิชาญ กล่าว