เลือกซื้อบ้านมือสอง…ให้โดนใจ

การเลือกซื้อบ้านมือสอง…ให้โดนใจหัวข้อนี้คงจะโดนใจกับหลายๆท่าน ที่ต้องการจะซื้อบ้านมือสองสักหลัง แต่วิธีการเลือกซื้อจะทำอย่างไรให้ได้ของดี ทำเลที่ดี ราคาพอรับได้ ซึ่งมีแนวทางการเลือกหลากหลายแนวทาง แต่ละคนที่ต้องการบ้านก็มีแนวทางการเลือกแตกต่างกันไปขึ้นกับบริบทของแต่ละคน ปัจจัยเอื้อและไม่เอื้อต่างๆ เหล่านี้ ก็พอที่จะคัดออกมาเป็นแนวทางเลือกให้ได้รับทราบกันบ้าง

เลือกบ้านให้ตรงกับการใช้ชีวิตประจำวัน

ทำเลที่ตั้งมีผลในการเลือกหัวข้อนี้มาก่อน เพราะจะเป็นเรื่องของตัวเราเองหรือครอบครัวล้วนๆ การจะมีบ้านสักหลัง เราจะต้องกำหนดความต้องการว่าเราอยากได้อะไร  งบประมาณเท่าไหร่  ประเภทของบ้านที่จะซื้อเป็นอะไร  มีผู้อยู่อาศัยหรือจำนวนคนในครอบครัวกี่คน ทำงานที่ไหน โรงเรียนลูก ญาติจากต่างจังหวัดจะมาเยี่ยมบ่อยไหม เงินออมมีเท่าไหร่ ความสามารถในการผ่อนกับธนาคารหรือว่าจะซื้อสด คือเรียกรวม ๆ สำรวจตัวเราเองหรือประเมินพละกำลังของเราว่าจะต่อสู้กับราคาของบ้านที่เรามองไว้ไหวไหม

เมื่อเมียงมองตนเองในกระจกเงาเห็นเป็นภาพร่าง  ซึ่งนั่นแหละครับคือบ้านของเรา จากนั้นเริ่มลงรายละเอียดแต่ละหัวข้อออกมาให้มากที่สุด จากนั้นเริ่มหาบ้านสัก 2-3 หลัง ง่ายที่สุดคือการค้นหาเอง เลือกในทำเลที่โดนใจ ราคาที่ใช่หลายๆ หลัง สุดแท้แต่ที่จะกระทำ ซึ่งก็ต้องคิดว่าทำอย่างไร แล้วหาบ้านได้เร็วที่สุด เพื่อเอามาเปรียบเทียบในแต่ละหลังโดยคัดเลือกในลิสต์จำนวนพอประมาณ แต่ไม่ต้องมากเกินไปจำนวนที่ดีคือสัก 3-5 หลัง เพื่อลงพื้นที่

ลงพื้นที่หาความจริง ดูสภาพแวดล้อม

การลงพื้นที่สำรวจบ้านที่เราเช็คลิสต์ไว้ ตรงจุดนี้ต้องลงรายละเอียดให้มากที่สุด สิ่งแรกที่เราจะเห็นคือ สภาพแวดล้อมของทำเล การเดินทางเข้าสู่บ้านง่ายหรือยาก จำนวนเพื่อนบ้านทั้งหมดในซอยและเพื่อนข้างบ้านซึ่งค่อนข้างสำคัญมากทีเดียว เพราะถ้าเราเลือกบ้านหลังนั้น เราก็จะต้องอยู่กับเพื่อนบ้านคนๆ นั้นไปตลอด จากนั้นการตรวจสภาพของบ้านภายใน สำคัญคือ โครงสร้างของบ้านต้องไม่แตก หัก ร้าว พื้นบ้านไม่ทรุด หลังคาไม่รั่ว ซึ่งตรงนี้มองเห็นได้ด้วยกายภาพ ทำเช็คลิสต์ไว้ทั้งหมดเพื่อเปรียบกับหลังอื่นๆ พร้อมทั้งกำหนดงบที่จะซ่อมแซมหรือตกแต่งเพิ่มเติม

หลังจากไปดูบ้านให้เห็นคาตามาแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการเปรียบเทียบของราคาบ้าน+การผ่อนชำระต่อเดือน+ค่าเดินทางในแต่ละวัน ของแต่ละหลัง เช่น คุณทำงานแถวบางใหญ่ ดูบ้านเดี่ยวไว้ 2 หลัง หลังแรกราคาประมาณ 3.5 ล้านบาท หลังที่สอง 3 ล้านบาท ราคาต่างกันประมาณ 500,000 บาท หลังแรกผ่อนแบงก์เดือนละประมาณ 25,000 บาท หลังที่สองผ่อนเดือนละ 20,000 บาท ต่างกัน 5,000 บาท ระยะเวลาการผ่อนเท่ากันดอกเบี้ยเท่ากัน หลังแรกขึ้นรถไฟฟ้าต่อเดียวถึงที่จุดหมายปลายทางมีค่าใช้จ่ายวันละ 140 บาทx 24 วันเป็นเงิน 3,360 บาทต่อเดือน หลังที่สอง ต้องมีการต่อมอเตอร์ไซด์รับจ้าง เข้าบ้านอีกทอด รวม ๆ แล้วประมาณวันละ 100 บาทx24 วันเป็นเงิน 2,400 บาท ต่อเดือน หลังแรกใช้เวลาเดินทางรวดเดียว หลังที่สองใช้เวลาเดินทางมากกว่า เหล่านี้ต้องนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน ระหว่างเงินและลดเวลาเดินทางที่น้อยลงได้ด้วย

สุดท้ายคือความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน สถานะการเงินของเราเป็นอย่างไรในการกู้ ควรให้ข้อมูลทางด้านการเงินเขาไปให้หมด แล้วลองยื่น Pre Approve เพื่อเช็คความสามารถของเราในการกู้ว่ากู้ได้เท่าไหร่จะได้วางแผนเรื่องเงินได้ถูกต้อง เพราะถ้าผิดพลาดไป พาลทำให้เสียเงินจองหรือมัดจำไปนทีจะเป็นเรื่อง การเลือกหาบ้าน โดยเฉพาะคนไทยเรายังนิยมเปลี่ยนสถานที่ทำงานดีกว่าย้ายบ้าน ทำให้ในชีวิตประจำวัน เวลาหมดไปกับจราจร น้ำมันก็แพง ค่ารถไฟฟ้าก็ไม่ถูก การครองชีพให้สมดุลนับว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้รอบรอบครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านดีๆ ทำเลโดนๆ เพื่ออยู่อาศัย ผมเชิญชวนคุณมางานนี้ครับ…งาน ‘Money Property Expo 2018’ งานที่คนรักการลงทุนห้ามพลาด…รวมแหล่งทรัพย์ดี ทำเลเด่น ราคาถูก และสินเชื่อที่อยู่อาศัยโปรแรง ดอกเบี้ยต่ำ จากสถาบันการเงินชื่อดัง พร้อมการลงทุนในรูปแบบต่างๆ อาทิ กองทุน หุ้น ประกัน ผลตอบแทนดี คุ้มค่า น่าลงทุน มาไว้ที่งานนี้ที่เดียว…พร้อมโปรโมชั่นร้อนแรง…จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่ยั้ง!! ลด แลก แจก แถม หนักที่สุดแห่งปี… จุดนัดพบที่คนรักการลงทุนห้ามพลาด!!…24 ถึง 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.30-21.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ชั้น 1 จัดโดย P.R.A. Academy และ Money Channel

บทความโดย :: ‘โค้ชกี่’ ศุภกิจ ประมวลทรัพย์ วิทยากรสอนด้านการลงทุนขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ P.R.A. Academy (Professional Real Estate Academy) ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทสินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด